Sunday, June 10, 2007

My journal: Natural Way of Love


เขียนเอาไว้นานหลายปีแล้วอีกเหมือนกัน ตอนอกหักใหม่ๆคราวนั้นก็คิดทบทวนเกี่ยวกับมันอยู่หลายวัน ตอนแรกๆก็เจ็บปวดมากสลับกันไปกับความโกรธ (เป็นภาวะธรรมชาติของอารมณ์ยามอกหักที่มักเกิดขึ้นสลับกัน ถ้าไม่เศร้าก็โกรธ ถ้าไม่โกรธก็เศร้า) แต่ตอนที่เขียนออกมาได้นั้นเป็นช่วงที่เกิดอาการปิ๊งแว๊บ คือมีญาณทัศนะบางอย่างเกิดขึ้น มองทะลุผ่านอะไรบางอย่างได้ มันเกิดการคลี่คลายและปลดเปลื้องปมบางอย่างภายในออกไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็คงเป็นสิ่งที่เราต้องเฝ้าดูมันต่อไปอีกเรื่อยๆ (และคงอีกนาน)ตราบใดที่ยังคงมีความรักและการตกหลุมรักอยู่และแน่นอนการอกหักที่ตามมา ก็ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมายให้ได้เรียนรู้ต่อไปไม่สิ้นสุด

อาจารย์วรรณี(ครูทางจิตวิญญาณ)สอนว่าความทุกข์คือครูที่เราจะเรียนรู้จากมันได้อย่างมหาศาล และให้เราแปรเปลี่ยนขยะภายในใจเราไปเป็นปุ๋ยแห่งชีวิตให้ได้ คำสอนนี้ช่วยเราให้ฝ่าวิกฤตในชีวิตและประคับประคองใจเอาไว้ได้ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับพายุภายในใจตัวเอง ขอบคุณค่ะอาจารย์


บันทึกนี้เขียนโดยแรงดลใจที่ได้จาก บทสนทนากับพระเจ้า
รวมทั้งอีเมลของชมรมรักรู้ธรรม

10 May 2005

อกหัก


อกหักคราวนี้ทำให้ฉันได้พบกับรักแท้ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ฉันได้พบกับรักแท้ที่ดำรงภายในตัวฉันเอง ฉันพบว่าความรัก ความสุข ความเบิกบานทั้งหมดที่ฉันเฝ้าแสวงหา ได้ดำรงอยู่ที่นี่แล้วภายในตัวฉันตลอดมา หลังจากผ่านการอกหักมาได้สองวัน ฉันก็ได้ตกหลุมรักอีกครั้งอย่างหมดหัวใจกับตัวเอง กับความงดงามน่ารัก กับความเบิกบาน กับปัญญา กับแสงสว่างที่ดำรงอยู่ภายในตัวฉัน ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งกับตนเอง ช่างเป็นการพบกันอีกครั้งที่น่าประทับใจ

หากถามฉันว่า ฉันยังคงรักเขาอยู่หรือไม่ ฉันคงตอบได้ว่ายังคงรักอยู่และคงจะรักต่อไปเรื่อยๆเพราะตัวฉันคือความรักที่ปรารถนาจักได้สำแดงออกซึ่งรัก แต่ฉันเลือกที่จะยุติรูปแบบความสัมพันธ์ในครั้งนี้กับเขาลง เพราะการยุติรูปแบบความสัมพันธ์นี้ทำให้ฉันสามารถเลือกที่จะเป็นในสิ่งที่ฉันต้องการจะเป็นได้ดีกว่าและมากกว่า

หากถามฉันว่า ฉันเสียใจหรือไม่กับการตัดสินใจในครั้งนี้ ฉันคงตอบได้ว่าแน่นอนฉันรู้สึกเสียใจในตอนแรก แต่แล้วฉันก็เลือกที่จะหยุดเสียใจ พอกันทีกับความเศร้า ความเสียใจ ฉันอยู่กับมันมานานมากพอแล้ว และบัดนี้ฉันก็ได้รู้แล้วว่านั่นไม่ใช่ตัวฉัน ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะเลือกในครั้งนี้และครั้งต่อๆไป บัดนี้ฉันขอเลือกความสุข ขอเลือกความเบิกบาน ขอเลือกความเข้าใจต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยปัญญาและความรักที่มาจากพระเจ้า ขอเลือกที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆไป

หากถามฉันว่า ความเข้าใจที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั้นคืออย่างไร ฉันคงตอบได้ว่า ฉันได้เข้าใจว่าตัวเขาก็คือตัวฉันในอีกภาคหนึ่ง ที่กำลังเดินอยู่บนหนทางแห่งการแสวงหาและการเรียนรู้ นั่นคือทางเลือกของเขา และเราไม่แตกต่างกัน

ฉันได้เข้าใจว่าความรักความใส่ใจที่เขามีให้แก่หญิงอื่นนั้นย่อมแตกต่างจากความรักที่เขามีให้แก่ฉัน และมันจะไม่มีวันซ้ำกันได้ ฉันดีใจที่ครั้งหนึ่งฉันเคยได้รักและเคยได้รับความรัก และความรักนั้นจะไม่ซ้ำกับความรักในครั้งใดๆ ไม่ว่าจะเป็นของเขาและของฉัน

ฉันได้เข้าใจว่าฉันได้หลงเดินเข้าไปติดกับดักความคิดแบบเก่าๆของตนเองในความสัมพันธ์ครั้งนี้ และนั่นทำให้ฉันไม่มีความสุข ทำให้ฉันร้อนรนกระวนกระวายและเป็นทุกข์ใจ เต็มไปด้วยความหึงหวง การปรารถนาที่จะครอบครองเป็นเจ้าของ และหวาดหวั่นอยู่ลึกๆว่าวันหนึ่งเขาอาจจะเลิกรักฉันและจากไป ฉันหวาดกลัวความเจ็บปวดจากความคิดที่ว่าฉันจะถูกทอดทิ้งและถูกปฏิเสธ ความหวาดกลัวนี้บีบคั้นหัวใจ

บัดนี้ฉันได้เห็นแล้วว่าฉันยังไม่เติบโตและเข้มแข็งพอที่จะหลุดออกมาจากกับดักนั้นได้ ตราบใดที่รูปแบบความสัมพันธ์เช่นนี้ยังดำเนินต่อไป ฉันได้กักขังตนเองและได้ขีดวงจำกัดเสรีภาพแห่งรักและชีวิตภายใต้รูปแบบความสัมพันธ์นั้นโดยไม่รู้ตัว และนั่นทำให้ฉันสร้างตัวตนที่น่าเบื่อ กระด้าง อึดอัดและไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา เมื่อความสัมพันธ์นั้นได้ยุติลงฉันรู้สึกราวกับว่ากับดักนั้นได้พังทลายลง ฉันสัมผัสได้ถึงเสรีภาพภายในอีกครั้ง

ฉันได้เรียนรู้ว่าหากฉันเติบโตกว่านี้ ฉันจะไม่มีวันเดินหลงเข้าไปติดกับดักใดๆได้อีก และฉันจะยังคงรักษาความสุข ความสงบ เสรีภาพและความเบิกบานภายในไว้ได้ ไม่ว่ารูปแบบความสัมพันธ์นั้นจะเป็นเช่นไรก็ตาม แต่ ณ เวลานี้ฉันขอน้อมศีรษะ ยอมรับกับตนเองว่าฉันเพิ่งจะเติบโตได้เพียงแค่นี้และยังต้องเติบโตต่อไป

ฉันได้เรียนรู้ว่าธรรมชาติที่แท้ในตัวฉันคือรักที่ปรารถนาจักแสดงออกซึ่งรัก ฉันคือชีวิตที่ปรารถนาจะแสดงออกซึ่งชีวิต และภายในตัวฉันคือพระผู้เป็นเจ้าที่ปรารถนาจักสำแดงออกซึ่งพระผู้เป็นเจ้า และทั้งหมดนี้คือเสรีภาพ และคือความเป็นนิรันดร์ สิ่งอื่นใดที่อยู่นอกเหนือไปจากนี้ย่อมไม่ใช่

ฉันได้เรียนรู้ว่าตัวฉันก็คือตัวเขา และฉันก็คือผู้หญิงอีกคนที่เขารักด้วยเช่นกัน เพราะเราล้วนมาจากที่เดียวกัน พระเจ้าสร้างเราจากพระองค์ในรูปแบบที่แตกต่างกันนับล้านนับพัน ณ จุดที่ไร้กาล หรือในอีกแง่หนึ่ง คือ ณ จุดแห่งกาลอันเป็นนิรันดร์ นั่นคือ ณ ที่นี่ ขณะนี้ แท้จริงแล้วไม่มีเวลาอื่นใดนอกจาก ขณะนี้ เพราะฉะนั้นเขาที่ฉันรัก และเธอที่เขารักคือคนๆเดียวกันที่ดำรงอยู่ในสภาวะที่แตกต่าง ณ ชั่วขณะเดียวกัน

ฉันได้พบว่าตัวฉันคือผู้สร้าง ฉันเลือกที่จะสร้างประสบการณ์ที่ฉันต้องการได้ ฉันเลือกที่จะรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ฉันเลือกที่จะเป็นผู้กระทำได้ พระเจ้าบอกว่า ความลับของชีวิตนั้นหาใช่การค้นพบไม่ หากแต่คือการสร้างสรรค์ คือการเลือกที่จะสร้างและเป็นในสิ่งที่เราปรารถนาจะเป็น เราทุกคนคือผู้สร้างและเรากำลังสร้างประสบการณ์และตัวเราขึ้นในทุกๆนาที ในทุกๆวัน ในทุกๆเดือนและทุกๆปี นี่คือบทเรียนสำคัญที่ฉันยังคงจะต้องเรียนรู้ต่อไป

พระเจ้าคะขอบคุณสำหรับทุกสิ่งๆและทุกๆเหตุการณ์ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ ขอบคุณสำหรับคำตอบ แสงสว่าง ปัญญาและความรักที่ท่านส่งมาให้ตลอดเวลา...ในทุกๆวิถีทาง

No comments:

Post a Comment